อาชญากรรมวันนี้ "ร้านตัดผ้าวราภรณ์ รับตัดเย็บเสื้อผ้าสตรี ชุดแบบฟอร์ม ชุดทำงาน ชุดไทย และจำหน่ายอุปกรณ์ประเภท ซิบ กระดุม ด้าย อื่นๆอีกมากมาย ยังจำหน่าย กรอบรูป ขายปลีกและส่งและยังบริการรับถ่ายรูปด่วน ขยายรูป ล้างรูป รับทำนามบัตร เคลือบบัตร ปริ้นงาน เข้าเล่ม สันเกียว สันกาว ถ่ายเอกสาร สีและขาวดำ ขนาดไซต์กระดาษตั้ง แต่ A4-F14-B4-A3 และยังบริการ ย่อ ขยายเอกสารฯลฯรับถ่ายทำ วีดีโอ ในและนอกสถานที่ราคาเป็นกันเอง ร้านตัดผ้าวราภรณ์อยู่ตรงข้าม โรงเรียนอนุบาลบ้านผือพิทยาภูมิถนนชนบทบำรุงอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ร้านตัดผ้าวราภรณ์ เปิด ปิดเวลา 06.00-18.00น. ทางร้านเปิดให้บริการทุกวัน ติดต่ดสอบถามโทร 0806299771 email hs3ghd15.s@gmail.comแฟกช์ 042282304.

วางแผนชิง 20 ล้าน ร.ต.ท.โหด ยิงบนทางด่วน


วางแผนชิง 20 ล้าน ร.ต.ท.โหด ยิงบนทางด่วน ผิดใจกันเรื่องเงินใช้หนี้

 

“ร.ต.ท.” ปืนโหด วางแผนชิงทรัพย์เพื่อนนักธุรกิจที่ว่าจ้างให้ขับรถนอกเวลางานมา 5 เดือน ตัดสินใจลงมือระหว่างขับรถมากับเหยื่อบนทางด่วนแต่ผู้เสียหายใจแข็งขู่ยังไงก็ไม่ยอมโอนเงิน ถึงขั้นยิงปืนขู่ในรถแล้วก็ยังไม่ยอม เลยจอดรถยิงใส่อีก 2 นัดแล้วหลบหนี นึกได้ว่าทำโทรศัพท์มือถือตัวเองตกในที่เกิดเหตุ ขับรถวนกลับมาเห็นพนักงานการทางพิเศษฯช่วยเหลือเหยื่อที่ยังไม่ตาย วิ่งข้ามทางพิเศษกลับมาจ่อยิงหัวดับสยอง เอารถไปทิ้งก่อนหลบหนี ไม่รอดชุดสืบสวนนครบาลตามลากคอมาได้ ตำรวจชั้นผู้ใหญ่แห่เค้นสอบ อ้างโกรธผู้ตายที่รับปากว่าจะช่วยใช้หนี้ 2 ล้านบาทแต่ไม่ทำ เลยวางแผนก่อเหตุบังคับให้โอนเงิน 20 ล้านบาท เหยื่อไม่ยอมเลยต้องตาย

เหตุฆ่าโหดบนทางด่วนรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อ เวลา 23.30 น. วันที่ 29 ธ.ค. ร.ต.อ.อวยชัย ศรีสงค์ รอง สว. (สอบสวน) สน.วังทองหลาง รับแจ้งเหตุยิงกันตายบนทางพิเศษ (ด่วน) ฉลองรัช กม.10 เหนือถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงใกล้แยกประชาธรรม แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. รุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผบก.น.4 พ.ต.อ.วิชัย ณรงค์ รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง ชุดสืบสวน บก.สส.บช.น. ชุดสืบสวน กก.สส.บก.น.4 ฝ่ายสืบสวน สน.วังทองหลาง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์เวรสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุบนทางด่วนฉลองรัชขาออกมุ่งหน้าลงถนนลาดพร้าวช่องทางเดินรถ 3 เลน ช่องทางซ้ายสุดพบศพนายกฤษฏิ์ ศรุวรานนต์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86/84 หมู่ 8 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ สภาพนอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อโปโลแขนสั้นลายสีเทาดำ กางเกงยีนส์ขายาวสีดำ ตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.เข้าที่กลางหน้าผาก 2 นัด นิ้วชี้มือขวา 1 นัด ใต้ท้องแขนขวา 1 นัด และขาขวาอีก 1 นัด รวม 5 นัด ในตัวพบเงินสดกว่า 50,000 บาท และเครื่องประดับสร้อย แหวน นาฬิกาหรู นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม.ตกอยู่ 5 ปลอก เจ้าหน้าที่ พฐ.เก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนเจ้าหน้าที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ผู้ประสบเหตุให้การว่า ขณะปฏิบัติหน้าที่ขับรถตรวจตราอยู่บนทางด่วน ใกล้ถึงจุดเกิดเหตุพบรถตู้ฮุนได เอช 1 สีดำ ทะเบียนป้ายแดง จอดเสียหลักชนขอบสะพานทางด่วนอยู่ เห็นชาย 2 คนกำลังมีปากเสียงทะเลาะวิวาทแต่ไกล หลังจากนั้นเริ่มชกต่อยกันตรงข้างรถ เหยื่อถูกทำร้ายจนไปนอนอยู่บนพื้นถนน ตนขับมาใกล้ถึงพอดีจอดรถเดินลงไป ชายคู่กรณีขึ้นไปนั่งคร่อมอยู่บนตัวเหยื่อ แล้วในมือขวา ถือปืนด้วย ตัดสินใจค่อยๆถอยออกมา หลังจากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด คาดว่าเหยื่อถูกยิงที่ขาขวาและใต้ท้องแขนขวา แล้วคนร้ายรีบเดินไปขึ้นรถตู้ขับหนีไปอย่างรวดเร็ว

พยานเจ้าหน้าที่การทางพิเศษฯกับเพื่อนรีบวิ่งเข้าไปช่วยเหลือคนเจ็บพร้อมแจ้งตำรวจและรถพยาบาล ชายที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บบอกเบอร์โทรศัพท์ภรรยาขอให้โทรไปหา แล้วพูดโทรศัพท์ด้วยตัวเอง บอกภรรยาว่าถูกยิง พร้อมสั่งให้ภรรยาพาลูกหนีออกจาก บ้านเพราะกลัวคนร้ายตามไปฆ่าให้ตาย ขณะนั้นเห็นรถตู้คันที่ขับหลบหนีไป วนกลับมาจอดบนไหล่ทางด่วนฝั่งขาเข้าตรงข้าม หลังจากนั้นคนร้ายคนเดิมถือปืนเดินลงมาจากรถ กระโดดข้ามแบริเออร์กั้นเกาะกลางตรงมาหาชายที่ได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง

ด้วยความหวาดกลัวเจ้าหน้าที่การทางพิเศษฯกับเพื่อนค่อยๆหลบฉากเข้าไปอยู่ในรถแล้วขับเลยไปเล็กน้อย เพราะกลัวว่าตัวเองจะกลายเป็นเหยื่อกระสุนไปด้วย มองกระจกหลังเห็นชายคนร้ายเดินมาถึงแล้วใช้ปืนจ่อยิงคนเจ็บอีกหลายนัดจนแน่ใจว่าเสียชีวิตแล้ว แล้วรีบวิ่งกลับไปกระโดดข้ามแบริเออร์ไปขึ้นรถตู้ขับหลบหนีไป ขณะนั้นมีรถโดยสารประจำทาง สาย 34 E สีน้ำเงิน วิ่งทางด่วนรังสิต 1-2E (14) ทะเบียน 16-6264 กรุงเทพมหานคร ขับมาประสบเหตุพอดี คาดโชเฟอร์น่าจะเห็นคนร้ายใช้ปืนจ่อยิงที่ศีรษะเหยื่อหนีไปแล้ว ให้รถโดยสารจอดรถขวางร่างผู้เสียชีวิตเอาไว้ เพราะเกรงว่าจะมีรถที่สัญจรไปมาด้วยความเร็วเนื่องจากเป็นช่วงดึกจะวิ่งมาทับศพ รอจนเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึง

ต่อมาระหว่างเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด เก็บวัตถุพยานปลอกกระสุนปืนและตรวจสอบสภาพศพนายกฤษฏิ์ ศรุวรานนต์ เบื้องต้นก่อนส่งชันสูตรพลิกศพที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ครอบครัวของผู้เสียชีวิต ประกอบด้วย มารดา ภรรยา และลูกของผู้เสียชีวิตเดินทางมาที่เกิดเหตุ เมื่อเห็นร่างเหยื่อที่พื้นทั้งหมดถึงกับช็อกร้องไห้โฮออกมา เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรีบเข้าไปปลอบ และพาตัวออกจากที่เกิดเหตุทันทีเพื่อสอบสวนเบื้องต้นและระบุตัวคนร้ายพร้อมสาเหตุการฆ่ากันตายอย่างสยดสยองครั้งนี้

จากการสอบสวนแม่และภรรยาผู้เสียชีวิตเบื้องต้น ทราบว่า รถตู้คันที่คนร้ายขับหลบหนีไป เป็นรถของนายกฤษฏิ์ ผู้เสียชีวิต ส่วนคนร้ายที่เป็นมือปืนตามคำบอกเล่าของผู้ตายหลังถูกยิงครั้งแรกยังไม่เสียชีวิตบอกว่าคือ ร.ต.ท.ณรงค์วัส ทะชาดา รอง สว. (สอบสวน) สน.หัวหมาก รู้จักคบกันเป็นเพื่อนกันมาพักใหญ่แล้ว หลังได้ข้อมูลมือปืนเบื้องต้น ชุดสืบสวน กก.สส.บก.น.4 และ สน.วังทองหลาง เร่งออกสืบสวนตามล่าตัว อย่างเร่งด่วนทันที เริ่มจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆว่าคนร้ายขับรถหลบหนีไปทางไหนลงทางด่วนช่วงใด เพราะผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและมีอาวุธร้ายแรง เกรงว่าจะไปก่อเหตุอุกฉกรรจ์ซ้ำอีก

มีรายงานว่า นายกฤษฏิ์ ศรุวรานนต์ ผู้เสียชีวิตเป็นนักธุรกิจเจ้าของโรงงาน ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน ส่วนมือปืน ร.ต.ท.ณรงค์วัส หรือนัท เป็นนักเรียนนายร้อย (นรต.) รุ่น 75 รู้จักกันเนื่องจากนายกฤษฏิ์ เคยเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.ณรงค์วัส ให้ดำเนินคดีคู่กรณี 3 คน ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เมื่อช่วงต้นปี 66 เนื่องจากคู่กรณีทั้ง 3 คนไปร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวศูนย์ภาคตะวันออกว่า นายกฤษฏิ์หลอกลวงตุ๋นขายรถยนต์หรูมือสอง หลังจากนั้นทำให้ทั้ง 2 คนสนิทสนม เที่ยวกินด้วยกันมาตลอด มีบ่อยครั้งที่ ร.ต.ท.ณรงค์วัสมาคอยขับรถให้นายกฤษฏิ์ลักษณะเหมือนการว่าจ้างมาดูแลความปลอดภัย แต่ยังไม่ทราบสาเหตุความขัดแย้งนำมาสู่การยิงกันเสียชีวิตดังกล่าว

ต่อมาเวลา 09.30 น. วันที่ 30 ธ.ค. พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า หลังเกิดเหตุครอบครัวของผู้เสียชีวิตมาที่เกิดเหตุพร้อมให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า ผู้เสียชีวิตทำธุรกิจส่วนตัว และรถตู้ที่ผู้ก่อเหตุขับรถหนีไปเป็นรถของผู้เสียชีวิต ส่วนผู้ก่อเหตุ คือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ว่างเว้นจากการปฏิบัติราชการ ไปรับจ้างทำหน้าที่ขับรถ ด้านพยานทั้ง 3 คน พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เชิญตัวไปสอบสวนเพื่อสอบถามข้อมูลอย่างละเอียดแล้ว ส่วนวัตถุพยานสำคัญ โทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิต ขณะนี้อยู่กับพนักงานสอบสวน จะตรวจสอบอย่างละเอียด ขณะเดียวกันยังมีวัตถุพยานสำคัญที่ได้จากที่เกิดเหตุด้วยคือ ปลอก กระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 6 ปลอก ทรัพย์สินผู้เสียชีวิต พบเงินสด 56,000 บาท นาฬิกาข้อมือ แหวนทองคำรูปพรรณ และสร้อยพระ ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเก็บรวบรวมทั้งหมดไว้เป็นหลักฐานทางคดี

ด้าน พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.เผยว่า เจ้าหน้าที่สามารถติดตามเข้าจับกุม ร.ต.ท.ณรงค์วัส ทะชาดา ผู้ก่อเหตุได้แล้วบริเวณห้องพักรายวันมันนี่โฮมย่านดอนเมือง พร้อมรถยนต์ของผู้เสียชีวิต คุมตัวไปสอบสวนที่กองกำกับการสืบสวนสอบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 4 ตั้งแต่ช่วงเช้า เบื้องต้นมีข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุเคยถูกผู้เสียชีวิตชักชวนไปหารายได้พิเศษ ช่วยขับรถช่วงที่ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ แต่ยังไม่ชัดเจนสาเหตุการลงมือยิงกันจนเสียชีวิต

ที่กองกำกับการสืบสวนสอบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 4 (กก.สส.บก.น.4) เวลา 10.40 น. พล.ต.ต.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผบก.น.4 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธัญญพัทธ์ บุญสุข ผกก.สส.บก.น.4 และ พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.วังทองหลาง พร้อมพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เดินทางมาร่วมสอบปากคำ ร.ต.ท.ณรงค์วัส ทะชาดา

รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสอบปากคำทราบว่า ก่อน ร.ต.ท.ณรงค์วัส หรือหมวดนัท รู้จักกับผู้ตาย ตัวเองมีปัญหาหนี้สินในระบบอยู่ประมาณ 2 ล้านบาท จากการไปกู้เงินมาลงทุนทำธุรกิจแล้วขาดทุนหลังรู้จักกับผู้ตายแล้วรับทำงานเป็นคนขับรถให้มาประมาณ 5 เดือน อ้างว่าถูกหลอกต่างๆนานาจะเคลียร์หนี้ให้บ้าง วิ่งเต้นตำแหน่งให้บ้าง เวลาผ่านไปไม่มีการดำเนินการใดๆเกิดขึ้น ทั้งที่คุยโม้ว่ามีเงินอยู่ในบัญชีธนาคารเกือบ 100 ล้านบาท

หมวดนัทให้การว่า ก่อนเกิดเหตุวางแผนจะบีบบังคับให้นายกฤษฏิ์โอนเงินมาช่วยใช้หนี้ให้ได้ ตั้งใจจะขู่เอาเงินทั้งหมด 20 ล้านบาท ระหว่างนั่งรถมาด้วยกันใช้ปืนจี้เหยื่อเพื่อบีบบังคับให้โอนเงิน ข่มขู่ยังไงเหยื่อก็ไม่ยอมตัดสินใจยิงปืนขู่ใส่ขาไป 1 นัด ก็ยังไม่ยอมโอนเงิน จอดรถลากลงมาข่มขู่แต่ยังไม่ได้ ยิงใส่ไปอีก 2 นัดคิดว่าเสียชีวิตแล้วขับรถหลบหนีระหว่างขับรถมาพบว่า โทรศัพท์มือถือของตัวเองตกอยู่ในที่เกิดเหตุ รีบขับรถวนกลับมายังจุดเกิดเหตุ เห็นมีพนักงานการทางพิเศษกำลังช่วยเหลือเหยื่อที่ยังไม่ตาย เลยวิ่งข้ามฝั่งทางด่วนมาจ่อยิงหัวจนเสียชีวิต แล้วหนีไปขึ้นรถตู้ขับไปทิ้งไว้ที่ซอยรางน้ำ แล้วเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่ห้องเช่ารายวัน มันนี่โฮม เลขที่ 233/152-3 ซอยสรณคมน์ 12 ถนนสรณคมน์ แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพ มหานคร จนถูกชุดสืบสวน บก.สส.บช.น. นำโดย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมกำลังตามไปจับกุมตัวไว้ได้ พร้อมปืน 9 มม.อาวุธสังหาร

เบื้องต้นระหว่างการสอบปากคำหมวดนัทอย่างละเอียด พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เดินทางไปอายัดรถตู้ฮุนได เอช 1 ป้ายแดงมาตรวจสอบแล้ว พบรอยกระสุนที่ประตูด้านข้างคนขับ 1 รู และปลอกกระสุนขนาด 9 มม.ตกอยู่บริเวณที่วางเท้าฝั่งคนขับอีก 1 นัด

นอกจากนี้ พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เดินทางไปขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับ ร.ต.ท.ณรงค์วัส ทะชาดา (นัท) อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 หมู่ 7 ต.สามพราน อ.สามพราน จ.นครปฐม ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา เลขที่ 4841/2566 กล่าวหาว่าฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพาอาวุธเข้าไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน

ตรวจยึดของกลาง 1.อาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อกล็อก 19 สีดำ จำนวน 1 กระบอก พร้อมซองกระสุน จำนวน 1 อัน 2.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน 14 โปรแมกซ์ สีดำ 3.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง สีดำ 4.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อบัดดี้ โฟน สีขาว 5.บัตรประจำตัวประชาชนของนายกฤษฏิ์ ศรุวรานนต์ (ผู้ตาย) และ 6.ชุดที่ใส่ก่อเหตุทั้งเสื้อ กางเกง รองเท้า เป็นตัวเดียวกันกับที่สวมใส่ขณะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม

ที่สถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ เวลา 13.00 น. น.ส.จิราภัทร ศรุวรานนต์ มารดา และ น.ส.ศิริรัตน์ ศรุวรานนต์ อายุ 33 ปี อดีตภรรยาที่มีลูกด้วยกัน 2 คนแต่เลิกรากันไปแล้ว เดินทางมาทำเอกสารติดต่อขอรับศพนายกฤษฏิ์ ศรุวรานนต์ อายุ 30 ปี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ถูก ร.ต.ท.ณรงค์วัส ทะชาดา ยิงเสียชีวิต ไปบำเพ็ญกุศลที่วัดศิริเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ

น.ส.จิราภัทรกล่าวทั้งน้ำตาว่า ปมที่เกิดขึ้นเชื่อว่ามาจากที่นายตำรวจคนก่อเหตุคนนี้ขอให้ลูกชายช่วยชดใช้หนี้สินทั้งหมดให้ แต่ลูกชายไม่รับปากและไม่ทำให้ เนื่องจากจำนวนเงินหนี้มากเกินไป ลูกชายช่วยเหลือได้แค่ให้ทำงานเก็บเงินแล้วไปชดใช้หนี้สินเอง แต่ผู้ก่อเหตุยังคอยอ้อนวอนให้ลูกชายช่วยเหลือตามที่ขอ ลูกชายยังคงยืนยันคำเดิม ผู้ก่อเหตุน่าจะโกรธและลงมือก่อเหตุดังกล่าวกับลูกชาย

“ส่วนตัวมองว่ามันเกินไปหรือไม่ ที่ให้ลูกชายชดใช้หนี้สินทั้งที่ไม่ใช่ของตัวเอง อยากถามมากว่า เขาทำแบบนี้ได้ยังไง ทำแบบนี้เท่ากับเขาทำลายครอบครัวคนอื่นไปหมดเลย ลูกชายเป็นนักธุรกิจเป็นเสาหลักของครอบครัว ขาดเขาไปแล้วครอบครัวก็แย่กันหมด ถ้าหากฉันได้เจอหน้าคนก่อเหตุ อยากถามเขามากเลยว่า “ทำทำไม ทำไปเพื่ออะไร” ตอนนี้กังวลกลัวว่าเขาจะได้รับการประกันตัว สิ่งที่ต้องการตอนนี้อยากให้เขาได้รับได้รับโทษคือ ประหารชีวิตเท่านั้น” น.ส.จิรภัทรกล่าว

ที่ศาลาสุพงศ์-ศรีอริยะวัฒน์กุล วัดศิริเสาธง ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ญาติผู้เสียชีวิตมาเตรียมงานรอรับศพ เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่เชื่อคำให้การของผู้ต้องหา ที่อ้างว่าถูกผู้เสียชีวิตหลอกให้ไปทำงานขับรถให้เป็นเวลา 5 เดือน และสัญญาว่าจะวิ่งเต้นเรื่องตำแหน่งให้ แต่ไม่ทำตามสัญญา ที่ผ่านมาหลานชายเป็นคนใจกว้าง มักจะเลี้ยงดูแลคนใกล้ชิดอย่างดี เคยเอาอาหารไปให้ที่โรงพักผู้ต้องหาด้วย ต้องการให้ดำเนินการกับผู้ต้องหาให้ถึงที่สุด อย่าช่วยกัน ถึงแม้ผู้ก่อเหตุจะเป็นตำรวจด้วยกัน

ต่อมาเวลา 14.30 น. รถเคลื่อนย้ายศพมาจาก รพ.ตำรวจ พร้อมกับแม่และอดีตภรรยาของผู้เสียชีวิต ญาติและพระในวัดช่วยกันยกโลงเข้ามาที่ศาลา เตรียมทำพิธีรดน้ำศพเวลา 16.00 น. ขณะนั้นภรรยายืนร้องไห้อย่างหนักด้วยความเสียใจ ส่วนแม่ผู้เสียชีวิตเดินเข้ามาแจ้งผู้สื่อข่าวว่า ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ ขอไม่ให้บันทึกภาพทำข่าวเพราะต้องการความเป็นส่วนตัว

>>{Fullwidth}
แสดงความคิดเห็น (0)
ใหม่กว่า เก่ากว่า

สื่อโฆษณา

ไทยเว็บเพจนิวส์
"ร้านตัดผ้าวราภรณ์ รับตัดเย็บเสื้อผ้าสตรี ชุดแบบฟอร์ม ชุดทำงาน ชุดไทย และจำหน่ายอุปกรณ์ประเภท ซิบ กระดุม ด้าย อื่นๆอีกมากมาย ยังจำหน่าย กรอบรูป ขายปลีกและส่งและยังบริการรับถ่ายรูปด่วน ขยายรูป ล้างรูป รับทำนามบัตร เคลือบบัตร ปริ้นงาน เข้าเล่ม สันเกียว สันกาว ถ่ายเอกสาร สีและขาวดำ ขนาดไซต์กระดาษตั้ง แต่ A4-F14-B4-A3 และยังบริการ ย่อ ขยายเอกสารฯลฯรับถ่ายทำ วีดีโอ ในและนอกสถานที่ราคาเป็นกันเอง ร้านตัดผ้าวราภรณ์อยู่ตรงข้าม โรงเรียนอนุบาลบ้านผือพิทยาภูมิถนนชนบทบำรุงอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ร้านตัดผ้าวราภรณ์ เปิด ปิดเวลา 06.00-18.00น. ทางร้านเปิดให้บริการทุกวัน ติดต่ดสอบถามโทร 0806299771-สนใตลงสื่อโฆษณา0612301227 email hs3ghd15.s@gmail.comแฟกช์ 042282304.