อาชญากรรมวันนี้ "ร้านตัดผ้าวราภรณ์ รับตัดเย็บเสื้อผ้าสตรี ชุดแบบฟอร์ม ชุดทำงาน ชุดไทย และจำหน่ายอุปกรณ์ประเภท ซิบ กระดุม ด้าย อื่นๆอีกมากมาย ยังจำหน่าย กรอบรูป ขายปลีกและส่งและยังบริการรับถ่ายรูปด่วน ขยายรูป ล้างรูป รับทำนามบัตร เคลือบบัตร ปริ้นงาน เข้าเล่ม สันเกียว สันกาว ถ่ายเอกสาร สีและขาวดำ ขนาดไซต์กระดาษตั้ง แต่ A4-F14-B4-A3 และยังบริการ ย่อ ขยายเอกสารฯลฯรับถ่ายทำ วีดีโอ ในและนอกสถานที่ราคาเป็นกันเอง ร้านตัดผ้าวราภรณ์อยู่ตรงข้าม โรงเรียนอนุบาลบ้านผือพิทยาภูมิถนนชนบทบำรุงอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ร้านตัดผ้าวราภรณ์ เปิด ปิดเวลา 06.00-18.00น. ทางร้านเปิดให้บริการทุกวัน ติดต่ดสอบถามโทร 0806299771 email hs3ghd15.s@gmail.comแฟกช์ 042282304.

เผยสาวถูกฆ่ารัดคอในรีสอร์ต ถอดสร้อยซ่อนใต้เบาะรถ ก่อนไปเจอผู้ชาย

เสียชีวิตแล้ว 4 ศพ เหตุแพข้ามฟากล่มกลางแม่น้ำมูล เด็กชาย 11 ปี ยังคงสูญหาย ขณะที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอุบลราชธานี จับปรับคนขับแพ 1 พันบาท ใช้เรือที่ไม่ได้รับอนุญาต ไม่มีใบอนุญาตในการขับเรือ พร้อมเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงมีการไล่ตีกันในงานหมอลำซิ่ง จนต้องหนีลงแพ จนน้ำหนักเกินหรือไม่สืบเนื่องจากกรณีแพข้ามฟากล่มกลางแม่น้ำมูล แพข้ามฟากล่มที่บ้านคำนกหอหมู่ 15 ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี เหตุเกิดเมื่อช่วงตี 1 ของวันที่ 9 มี.ค. ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตล่าสุด 3 ราย ยังคงสูญหายอีก 2 ราย คือ นายหนึ่งศักดิ์ดา พันธ์เสาร์ อายุ 41 ปี ด.ช.อานนท์ (เต็งหนึ่ง) พันธ์เสาร์ อายุ 11 ปี ลูกชาย ดับแล้ว 4 ศพเซ่นแพข้ามฟากล่มกลางแม่น้ำมูล เจ้าท่าอุบลฯ จับปรับคนขับ 1 พันบาท


ตำรวจเมืองคอนนำตัวผู้ต้องสงสัยฆ่ารัดคอสาวใหญ่คาเตียง ให้พนักงานรีสอร์ตชี้ตัว แต่ชี้ว่าไม่ใช่คนนี้จึงปล่อยตัวกลับไป เชื่อฆาตกรตั้งใจฆ่าชิงทรัพย์ เพราะเตรียมเชือกที่ผูกปมไว้มาด้วย ล่าสุดพบสร้อยคอทองคำและแหวนทองของผู้ตายซ่อนใต้เบาะรถจยย. คาดถอดซ่อนไม่ให้คนร้ายเห็น 

เย็นวันที่ 27 ก.ค. 66 ที่ กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ตำรวจได้นำตัวชายผู้ต้องสงสัยคนหนึ่งวัย 50 ปีเศษ ซึ่งเป็นคนสนิท น.ส.เกษร อายุ 45 ปี เหยี่อที่ถูกฆ่ารัดคอเสียชีวิตคาเตียงรีสอร์ต หมู่ 1 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง มาให้พยานซึ่งเป็นพนักงานของรีสอร์ตดูว่าใช่คนร้ายฆ่า น.ส.เกษร หรือไม่ ปรากฏว่าพยานยืนยันว่าไม่ใช่คนนี้ ซึ่งตำรวจได้ปล่อยตัวชายต้องสงสัยไป และจะเร่งติดตามตัวคนร้ายตัวจริงต่อไป

ขณะเดียวกัน ตำรวจได้ค้นเจอสร้อยคอทองคำและแหวนทองคำหนักรวมกว่า 1 บาท ซึ่งเป็นของผู้ตายซ่อนใต้เบาะรถจยย.ของผู้ตาย คาดว่าตั้งใจจะซ่อนทรัพย์สินมีค่าดังกล่าวเพื่อไม่ให้หนุ่มคู่ขาที่มาเปิดห้องพักด้วยกันรู้ว่าของมีค่าดังกล่าวอยู่ที่ไหน และเชื่อว่าหนุ่มที่มาเปิดห้องพักด้วยกันเตรียมการมาอย่างดี โดยนำเชือกสีดำความยาวประมาณ 50 ซม. ผูกเงื่อนหัวท้ายไว้นำมาใช้รัดคอผู้ตายเพื่อหวังชิงทรัพย์ แต่คนร้ายผิดหวังไม่เจอสร้อยคอทองคำและแหวนทองคำเนื่องจากผู้ตายซ่อนไว้ใต้เบาะรถจยย. ซึ่งทางตำรวจจะเร่งคลี่คลายคดี ติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ต่อไป.

 

ดับแล้ว 4 ศพเซ่นแพข้ามฟากล่มกลางแม่น้ำมูล เจ้าท่าอุบลฯ จับปรับคนขับ 1 พันบาท


 

เสียชีวิตแล้ว 4 ศพ เหตุแพข้ามฟากล่มกลางแม่น้ำมูล เด็กชาย 11 ปี ยังคงสูญหาย ขณะที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอุบลราชธานี จับปรับคนขับแพ 1 พันบาท ใช้เรือที่ไม่ได้รับอนุญาต ไม่มีใบอนุญาตในการขับเรือ พร้อมเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงมีการไล่ตีกันในงานหมอลำซิ่ง จนต้องหนีลงแพ จนน้ำหนักเกินหรือไม่

สืบเนื่องจากกรณีแพข้ามฟากล่มกลางแม่น้ำมูล แพข้ามฟากล่มที่บ้านคำนกหอหมู่ 15 ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี เหตุเกิดเมื่อช่วงตี 1 ของวันที่ 9 มี.ค. ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตล่าสุด 3 ราย ยังคงสูญหายอีก 2 ราย คือ นายหนึ่งศักดิ์ดา พันธ์เสาร์ อายุ 41 ปี ด.ช.อานนท์ (เต็งหนึ่ง) พันธ์เสาร์ อายุ 11 ปี ลูกชาย

SPONSORED

เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.00 น. (9 มี.ค.) ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ยุติการค้นหา เนื่องจากเหนื่อยล้าจากการค้นหาตลอดทั้งวัน ประกอบกับสภาพแวดล้อมที่มืดเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงาน สำหรับร่างผู้สูญหายที่พบล่าสุด คือ นายฉัตรชัย ชะภูธร อายุ 31 ปี พร้อมกระเป๋าสะพาย ภายในมีเอกสารบัตรประชาชนของนายฉัตรชัย อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ พร้อมกระสุน อีกจำนวน 3 นัด โทรศัพท์และเงินสดจำนวนหนึ่ง จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน

ด้าน พ.ต.อ.ฉัฐวัชร วงศ์วาสน์ รอง ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี นายชาญยุทธ์ ชื่นตา ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอุบลราชธานี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและสภาพแพที่เก็บกู้ขึ้นมาได้ พบว่าแพดังกล่าว หากเรียกตามสภาพแล้วเป็นเรือหัวตัดที่ดัดแปลงขึ้น เพื่อขนย้ายรถจักรยานยนต์และขนส่งชาวบ้านข้ามฟาก แต่ชาวบ้านจะเรียกว่าแพข้ามฟาก

นายชาญยุทธ์ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าเรือที่เกิดเหตุไม่ได้มีการขออนุญาต หรือขึ้นทะเบียนเป็นเรือโดยสารกับทางสำนักงานเจ้าท่าอุบลราชธานี เป็นเรือที่ชาวบ้านใช้ในการทำประมงและใช้รับจ้างขนส่งคนข้ามฟาก และคนขับเรือก็ไม่มีใบอนุญาตในการขับเรือ จึงได้ดำเนินการปรับผู้ที่บังคับควบคุมเรือในฐานใช้เรือที่ไม่ได้รับอนุญาต ไม่มีใบอนุญาตในการขับเรือ จำนวน 1,000 บาท

ส่วนด้านคดีการไล่ตีกันนั้น กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเกิดเหตุการณ์อย่างไร แต่พยานส่วนใหญ่ให้การว่ามีการตีกันภายในงานบุญจริง แต่ข้อเท็จจริงที่ไล่ตีกันจนต้องหนีลงแพจนน้ำหนักเกินหรือไม่ ยังต้องตรวจสอบเพิ่มเติม

ในช่วงเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยจะทำการค้นหาร่างของ 2 พ่อลูก ตระกูล พันธ์เสาร์อีกครั้งโดยการค้นหาจะมีการขยายแนวเขตออกจากจุดเกิดเหตุไปอีก 1-2 กิโลเมตร เนื่องจากระยะเวลาที่ผ่านมานานกว่า 24 ชั่วโมง อาจจะทำให้ทั้งสองคนลอยห่างออกไปอีก รวมทั้งจะมีการนำโดรนบินสำรวจบนผิวน้ำเพื่อค้นหาอีกทาง

ด้านนายอมร พรมสอน นายอำเภอสิรินธร เปิดเผยว่าคืนวันเกิดเหตุ มีงานมหรสพที่ฝั่งบ้านตุลุง ของตำบลโขงเจียม มีหมอลำซิ่ง วัยรุ่นจากบ้านคำนกหอ บ้านสุวรรณวารี ก็ข้ามไปเที่ยวงานหมอลำซิ่ง การเดินทางกลับข้ามฟากไปต้องนั่งแพกลับจำนวนวัยรุ่นที่กลับค่อนข้างมาก เนื่องจากว่าภายในงานมีการทะเลาะวิวาทกันทุกคนก็รีบกลับพอมาที่แพเที่ยวที่ 2 ด้วยจำนวนคนมากก็เลยทำให้แพล่ม วัยรุ่นบางส่วนก็ว่ายน้ำขึ้นฝั่งได้ บางส่วนก็ช่วยเหลือได้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าว

สำหรับส่วนราชการยังระดมทีมค้นหาอย่างต่อเนื่อง เรื่องการเยียวยาองค์การบริหารส่วนตำบลคำเขื่อนแก้ว สามารถจ่ายเงินสงเคราะห์คนที่ตายโดยผิดธรรมชาติได้ รายละไม่เกินสามพันบาท ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วพบว่าทั้งหมดค่อนข้างที่จะขาดแคลน สามารถรับเงินสงเคราะห์ได้ ส่วนเรื่องคดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิรินธร ได้ควบคุมตัวเจ้าของแพ หรือคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องไปสอบสวนแล้ว

น.ส.จันทัย แสนทวีสุข นักวิชาการศึกษาปฏิบัติการ สพป.อุบล เขต 3 กล่าวว่าหลังเกิดเหตุทางผู้บริหารเองได้ลงพื้นที่ไปให้กำลังใจครอบครัวของเด็กนักเรียนที่เสียชีวิตและจากตรวจสอบเหตุการณ์พบว่ามีนักเรียนในสังกัดที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด 2 ราย เป็นนักเรียนโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 87 ชั้น ป.2 อีกรายเป็นนักเรียนชายชั้น ป.5 โรงเรียนสุวรรณวารี 1 แต่ขณะนี้พบร่างเพียงรายเดียว อีก 1 ราย กำลังค้นหา

สำหรับแนวทางการช่วยเหลือในเบื้องต้นทางโรงเรียนได้ประสานกับบริษัทประกันเพื่อจ่ายสินไหมให้กับครอบครัว มีการรวบรวมเงินจากคณะครูเพื่อดูแลเยียวยาเบื้องต้นและอำนวยความสะดวกในการค้นหา

ขณะที่นายวิโรจน์ พันธ์เสาร์ ลูกพี่ลูกน้องของนายหนึ่งศักดิ์ดา เล่าว่า ปกติชาวบ้านไม่ค่อยได้ข้ามแพมากนัก มีเพียงวัน 2-3 ราย ค่าบริการรถจักรยานยนต์ 30 บาท คน 20 บาท ส่วนเหตุผลที่ต้องใช้แพข้ามฟากเพราะจะใกล้กว่าการเดินทางโดยรถ เนื่องจากการเดินทางโดยรถนั้นจะต้องอ้อมเข้าไปอีก 2 ตำบล ระยะทางกว่า 30 กิโลเมตร

 


"จ่าเบิร์ด" ผู้ต้องหายิงนักเที่ยวดับ 1 เจ็บอีก 2 กลางผับดังเมืองตรัง เข้ามอบตัวกับผู้การตรัง พร้อมกับปืนเอ็ม 4 และเสื้อเกราะกันกระสุน เบื้องต้นไปซ่อนตัวอยู่ในป่าข้ามคืน คุมตัวสอบปากคำเครียด

กรณี จ.ส.ต.ชุติพนธ์ นาคแก้ว หรือจ่าเบิร์ด ตำแหน่ง ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.บ้านหนองเอื้อง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการชุดปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง (S.W.A.T) ภ.จว.ตรัง ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงใส่ นายจิตกร คงจันทร์ หรือขาว อายุ 32 ปี ชาว ต.ทุ่งค่าย อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง จำนวน 9 นัดเสียชีวิตกลางผับดัง นายเอกพจน์ เพ็ชรรัตน์ หรือต้อม อายุ 34 ปี เพื่อนผู้เสียชีวิต บาดเจ็บอีก 1 ราย และยังไปถูกนักเที่ยวถูกลูกหลงเจ็บอีก 1 ราย หลังเกิดเขม่นไม่พอใจกัน เหตุเกิดภายในสถานบันเทิง ‘คันทรี่โฮม’ เลขที่ 205 หมู่ 4 ถนนพัทลุง ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง (บริเวณถนนทางเข้า บขส.ตรัง) ซึ่งเป็นสถานที่ปลอดอาวุธ ขณะทั้งสองฝ่ายนั่งดื่มสุรากัน เหตุเกิดเวลาประมาณ 01.15 น. วันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา

ความคืบหน้าเมื่อช่วงเวลาประมาณ 06.30 น. วันที่ 26 ต.ค. 65 ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง จ.ส.ต.ชุติพนธ์ นาคแก้ว หรือจ่าเบิร์ด สวมเสื้อยืดสีส้ม-ขาว ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต.เชาวลิต เลี้ยงสุพงศ์ ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.สิทธินันท์ สังฆพันธ์ รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง กำกับดูแลชุดหน่วยสวาทฯ พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.ต.ขวัญเจริญ ไกรทอง สว.กก.สส.ภว.ตรัง หัวหน้าหน่วยสวาทศรีตรัง (S.W.A.T) หลังตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จ.ตรัง ที่ จ.375/2565 ลงวันที่ 25 ต.ค. 65 ในข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่น, พยายามฆ่า และพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไปที่ทางสาธารณะ พร้อมกับนำอาวุธปืนยาว M4 พร้อมด้วยกระสุน และเสื้อเกราะกันกระสุน มามอบให้กับผู้บังคับบัญชา หลังจากก่อเหตุได้ไปหยิบขโมยมาจากที่ทำงาน พร้อมกับนำเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ขายาว มามอบให้ด้วยเช่นกัน ก่อนจะใส่กุญแจมือนำตัวมาสอบปากคำอย่างละเอียดที่กองกำกับการสืบสวน ภ.จว.ตรัง ท่ามกลางสีหน้าเคร่งเครียดและอยู่ในสภาพอิดโรย

สอบเครียด "จ่าเบิร์ด" ยิงคนในผับเมืองตรังตาย 1 เจ็บ 2 มอบตัวพร้อมปืนเอ็ม 4

พฤติการณ์เบื้องต้นหลังจากผู้ต้องหาก่อเหตุและไปหยิบขโมยอาวุธจากที่ทำงาน ได้เดินเท้าหลบหนีเข้าไปหลบซ่อนอยู่ภายในป่ารกทึบใกล้สนามบินตรังและอยู่ฝั่งตรงข้ามกองบังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง และห้องทำงานชุดปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง (S.W.A.T) ประมาณ 1.5 กิโลเมตร เท่านั้น ก่อนจะทนแรงกดดันไม่ไหว เพราะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดล้อมอยู่บริเวณโดยรอบ ประกอบกับในช่วงกลางคืนที่ผ่านมามีฝนตก ก่อนจะตัดสินใจติดต่อเข้ามอบตัวโดยประสานไปยัง พ.ต.ต.ขวัญเจริญ ไกรทอง สว.กก.สส.ภ.จว.ตรัง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของ จ.ส.ต.ชุติพนธ์ หรือจ่าเบิร์ด เพื่อขอเข้ามอบตัวในช่วงเช้าเวลา 06.30 น. วันนี้ ที่บ้านร้างในพื้นที่ หมู่ 10 ซอยเห็ดแครง ต.โคกหล่อ อ.เมืองตรัง ขณะนี้อยู่ในระหว่างที่ผู้บังคับบัญชากำลังเค้นสอบปากคำอย่างละเอียด.

 

{Fullwidth}{Fullwidth}
แสดงความคิดเห็น (0)
ใหม่กว่า เก่ากว่า

สื่อโฆษณา

ไทยเว็บเพจนิวส์
"ร้านตัดผ้าวราภรณ์ รับตัดเย็บเสื้อผ้าสตรี ชุดแบบฟอร์ม ชุดทำงาน ชุดไทย และจำหน่ายอุปกรณ์ประเภท ซิบ กระดุม ด้าย อื่นๆอีกมากมาย ยังจำหน่าย กรอบรูป ขายปลีกและส่งและยังบริการรับถ่ายรูปด่วน ขยายรูป ล้างรูป รับทำนามบัตร เคลือบบัตร ปริ้นงาน เข้าเล่ม สันเกียว สันกาว ถ่ายเอกสาร สีและขาวดำ ขนาดไซต์กระดาษตั้ง แต่ A4-F14-B4-A3 และยังบริการ ย่อ ขยายเอกสารฯลฯรับถ่ายทำ วีดีโอ ในและนอกสถานที่ราคาเป็นกันเอง ร้านตัดผ้าวราภรณ์อยู่ตรงข้าม โรงเรียนอนุบาลบ้านผือพิทยาภูมิถนนชนบทบำรุงอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ร้านตัดผ้าวราภรณ์ เปิด ปิดเวลา 06.00-18.00น. ทางร้านเปิดให้บริการทุกวัน ติดต่ดสอบถามโทร 0806299771-สนใตลงสื่อโฆษณา0612301227 email hs3ghd15.s@gmail.comแฟกช์ 042282304.