ดับแล้ว 4 ศพเซ่นแพข้ามฟากล่มกลางแม่น้ำมูล เจ้าท่าอุบลฯ จับปรับคนขับ 1 พันบาท
ตำรวจเมืองคอนนำตัวผู้ต้องสงสัยฆ่ารัดคอสาวใหญ่คาเตียง ให้พนักงานรีสอร์ตชี้ตัว แต่ชี้ว่าไม่ใช่คนนี้จึงปล่อยตัวกลับไป เชื่อฆาตกรตั้งใจฆ่าชิงทรัพย์ เพราะเตรียมเชือกที่ผูกปมไว้มาด้วย ล่าสุดพบสร้อยคอทองคำและแหวนทองของผู้ตายซ่อนใต้เบาะรถจยย. คาดถอดซ่อนไม่ให้คนร้ายเห็น
เย็นวันที่ 27 ก.ค. 66 ที่ กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ตำรวจได้นำตัวชายผู้ต้องสงสัยคนหนึ่งวัย 50 ปีเศษ ซึ่งเป็นคนสนิท น.ส.เกษร อายุ 45 ปี เหยี่อที่ถูกฆ่ารัดคอเสียชีวิตคาเตียงรีสอร์ต หมู่ 1 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง มาให้พยานซึ่งเป็นพนักงานของรีสอร์ตดูว่าใช่คนร้ายฆ่า น.ส.เกษร หรือไม่ ปรากฏว่าพยานยืนยันว่าไม่ใช่คนนี้ ซึ่งตำรวจได้ปล่อยตัวชายต้องสงสัยไป และจะเร่งติดตามตัวคนร้ายตัวจริงต่อไป
ขณะเดียวกัน ตำรวจได้ค้นเจอสร้อยคอทองคำและแหวนทองคำหนักรวมกว่า 1 บาท ซึ่งเป็นของผู้ตายซ่อนใต้เบาะรถจยย.ของผู้ตาย คาดว่าตั้งใจจะซ่อนทรัพย์สินมีค่าดังกล่าวเพื่อไม่ให้หนุ่มคู่ขาที่มาเปิดห้องพักด้วยกันรู้ว่าของมีค่าดังกล่าวอยู่ที่ไหน และเชื่อว่าหนุ่มที่มาเปิดห้องพักด้วยกันเตรียมการมาอย่างดี โดยนำเชือกสีดำความยาวประมาณ 50 ซม. ผูกเงื่อนหัวท้ายไว้นำมาใช้รัดคอผู้ตายเพื่อหวังชิงทรัพย์ แต่คนร้ายผิดหวังไม่เจอสร้อยคอทองคำและแหวนทองคำเนื่องจากผู้ตายซ่อนไว้ใต้เบาะรถจยย. ซึ่งทางตำรวจจะเร่งคลี่คลายคดี ติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ต่อไป.
ดับแล้ว 4 ศพเซ่นแพข้ามฟากล่มกลางแม่น้ำมูล เจ้าท่าอุบลฯ จับปรับคนขับ 1 พันบาท

เสียชีวิตแล้ว 4 ศพ เหตุแพข้ามฟากล่มกลางแม่น้ำมูล เด็กชาย 11 ปี ยังคงสูญหาย ขณะที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอุบลราชธานี จับปรับคนขับแพ 1 พันบาท ใช้เรือที่ไม่ได้รับอนุญาต ไม่มีใบอนุญาตในการขับเรือ พร้อมเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงมีการไล่ตีกันในงานหมอลำซิ่ง จนต้องหนีลงแพ จนน้ำหนักเกินหรือไม่
สืบเนื่องจากกรณีแพข้ามฟากล่มกลางแม่น้ำมูล แพข้ามฟากล่มที่บ้านคำนกหอหมู่ 15 ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี เหตุเกิดเมื่อช่วงตี 1 ของวันที่ 9 มี.ค. ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตล่าสุด 3 ราย ยังคงสูญหายอีก 2 ราย คือ นายหนึ่งศักดิ์ดา พันธ์เสาร์ อายุ 41 ปี ด.ช.อานนท์ (เต็งหนึ่ง) พันธ์เสาร์ อายุ 11 ปี ลูกชาย

SPONSORED
เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.00 น. (9 มี.ค.) ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ยุติการค้นหา เนื่องจากเหนื่อยล้าจากการค้นหาตลอดทั้งวัน ประกอบกับสภาพแวดล้อมที่มืดเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงาน สำหรับร่างผู้สูญหายที่พบล่าสุด คือ นายฉัตรชัย ชะภูธร อายุ 31 ปี พร้อมกระเป๋าสะพาย ภายในมีเอกสารบัตรประชาชนของนายฉัตรชัย อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ พร้อมกระสุน อีกจำนวน 3 นัด โทรศัพท์และเงินสดจำนวนหนึ่ง จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน

ด้าน พ.ต.อ.ฉัฐวัชร วงศ์วาสน์ รอง ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี นายชาญยุทธ์ ชื่นตา ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอุบลราชธานี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและสภาพแพที่เก็บกู้ขึ้นมาได้ พบว่าแพดังกล่าว หากเรียกตามสภาพแล้วเป็นเรือหัวตัดที่ดัดแปลงขึ้น เพื่อขนย้ายรถจักรยานยนต์และขนส่งชาวบ้านข้ามฟาก แต่ชาวบ้านจะเรียกว่าแพข้ามฟาก

นายชาญยุทธ์ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าเรือที่เกิดเหตุไม่ได้มีการขออนุญาต หรือขึ้นทะเบียนเป็นเรือโดยสารกับทางสำนักงานเจ้าท่าอุบลราชธานี เป็นเรือที่ชาวบ้านใช้ในการทำประมงและใช้รับจ้างขนส่งคนข้ามฟาก และคนขับเรือก็ไม่มีใบอนุญาตในการขับเรือ จึงได้ดำเนินการปรับผู้ที่บังคับควบคุมเรือในฐานใช้เรือที่ไม่ได้รับอนุญาต ไม่มีใบอนุญาตในการขับเรือ จำนวน 1,000 บาท
ส่วนด้านคดีการไล่ตีกันนั้น กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเกิดเหตุการณ์อย่างไร แต่พยานส่วนใหญ่ให้การว่ามีการตีกันภายในงานบุญจริง แต่ข้อเท็จจริงที่ไล่ตีกันจนต้องหนีลงแพจนน้ำหนักเกินหรือไม่ ยังต้องตรวจสอบเพิ่มเติม
ในช่วงเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยจะทำการค้นหาร่างของ 2 พ่อลูก ตระกูล พันธ์เสาร์อีกครั้งโดยการค้นหาจะมีการขยายแนวเขตออกจากจุดเกิดเหตุไปอีก 1-2 กิโลเมตร เนื่องจากระยะเวลาที่ผ่านมานานกว่า 24 ชั่วโมง อาจจะทำให้ทั้งสองคนลอยห่างออกไปอีก รวมทั้งจะมีการนำโดรนบินสำรวจบนผิวน้ำเพื่อค้นหาอีกทาง

ด้านนายอมร พรมสอน นายอำเภอสิรินธร เปิดเผยว่าคืนวันเกิดเหตุ มีงานมหรสพที่ฝั่งบ้านตุลุง ของตำบลโขงเจียม มีหมอลำซิ่ง วัยรุ่นจากบ้านคำนกหอ บ้านสุวรรณวารี ก็ข้ามไปเที่ยวงานหมอลำซิ่ง การเดินทางกลับข้ามฟากไปต้องนั่งแพกลับจำนวนวัยรุ่นที่กลับค่อนข้างมาก เนื่องจากว่าภายในงานมีการทะเลาะวิวาทกันทุกคนก็รีบกลับพอมาที่แพเที่ยวที่ 2 ด้วยจำนวนคนมากก็เลยทำให้แพล่ม วัยรุ่นบางส่วนก็ว่ายน้ำขึ้นฝั่งได้ บางส่วนก็ช่วยเหลือได้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าว
สำหรับส่วนราชการยังระดมทีมค้นหาอย่างต่อเนื่อง เรื่องการเยียวยาองค์การบริหารส่วนตำบลคำเขื่อนแก้ว สามารถจ่ายเงินสงเคราะห์คนที่ตายโดยผิดธรรมชาติได้ รายละไม่เกินสามพันบาท ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วพบว่าทั้งหมดค่อนข้างที่จะขาดแคลน สามารถรับเงินสงเคราะห์ได้ ส่วนเรื่องคดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิรินธร ได้ควบคุมตัวเจ้าของแพ หรือคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องไปสอบสวนแล้ว
น.ส.จันทัย แสนทวีสุข นักวิชาการศึกษาปฏิบัติการ สพป.อุบล เขต 3 กล่าวว่าหลังเกิดเหตุทางผู้บริหารเองได้ลงพื้นที่ไปให้กำลังใจครอบครัวของเด็กนักเรียนที่เสียชีวิตและจากตรวจสอบเหตุการณ์พบว่ามีนักเรียนในสังกัดที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด 2 ราย เป็นนักเรียนโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 87 ชั้น ป.2 อีกรายเป็นนักเรียนชายชั้น ป.5 โรงเรียนสุวรรณวารี 1 แต่ขณะนี้พบร่างเพียงรายเดียว อีก 1 ราย กำลังค้นหา
สำหรับแนวทางการช่วยเหลือในเบื้องต้นทางโรงเรียนได้ประสานกับบริษัทประกันเพื่อจ่ายสินไหมให้กับครอบครัว มีการรวบรวมเงินจากคณะครูเพื่อดูแลเยียวยาเบื้องต้นและอำนวยความสะดวกในการค้นหา

ขณะที่นายวิโรจน์ พันธ์เสาร์ ลูกพี่ลูกน้องของนายหนึ่งศักดิ์ดา เล่าว่า ปกติชาวบ้านไม่ค่อยได้ข้ามแพมากนัก มีเพียงวัน 2-3 ราย ค่าบริการรถจักรยานยนต์ 30 บาท คน 20 บาท ส่วนเหตุผลที่ต้องใช้แพข้ามฟากเพราะจะใกล้กว่าการเดินทางโดยรถ เนื่องจากการเดินทางโดยรถนั้นจะต้องอ้อมเข้าไปอีก 2 ตำบล ระยะทางกว่า 30 กิโลเมตร
"จ่าเบิร์ด" ผู้ต้องหายิงนักเที่ยวดับ 1 เจ็บอีก 2 กลางผับดังเมืองตรัง เข้ามอบตัวกับผู้การตรัง พร้อมกับปืนเอ็ม 4 และเสื้อเกราะกันกระสุน เบื้องต้นไปซ่อนตัวอยู่ในป่าข้ามคืน คุมตัวสอบปากคำเครียด
กรณี จ.ส.ต.ชุติพนธ์ นาคแก้ว หรือจ่าเบิร์ด ตำแหน่ง ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.บ้านหนองเอื้อง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการชุดปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง (S.W.A.T) ภ.จว.ตรัง ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงใส่ นายจิตกร คงจันทร์ หรือขาว อายุ 32 ปี ชาว ต.ทุ่งค่าย อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง จำนวน 9 นัดเสียชีวิตกลางผับดัง นายเอกพจน์ เพ็ชรรัตน์ หรือต้อม อายุ 34 ปี เพื่อนผู้เสียชีวิต บาดเจ็บอีก 1 ราย และยังไปถูกนักเที่ยวถูกลูกหลงเจ็บอีก 1 ราย หลังเกิดเขม่นไม่พอใจกัน เหตุเกิดภายในสถานบันเทิง ‘คันทรี่โฮม’ เลขที่ 205 หมู่ 4 ถนนพัทลุง ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง (บริเวณถนนทางเข้า บขส.ตรัง) ซึ่งเป็นสถานที่ปลอดอาวุธ ขณะทั้งสองฝ่ายนั่งดื่มสุรากัน เหตุเกิดเวลาประมาณ 01.15 น. วันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าเมื่อช่วงเวลาประมาณ 06.30 น. วันที่ 26 ต.ค. 65 ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง จ.ส.ต.ชุติพนธ์ นาคแก้ว หรือจ่าเบิร์ด สวมเสื้อยืดสีส้ม-ขาว ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต.เชาวลิต เลี้ยงสุพงศ์ ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.สิทธินันท์ สังฆพันธ์ รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง กำกับดูแลชุดหน่วยสวาทฯ พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.ต.ขวัญเจริญ ไกรทอง สว.กก.สส.ภว.ตรัง หัวหน้าหน่วยสวาทศรีตรัง (S.W.A.T) หลังตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จ.ตรัง ที่ จ.375/2565 ลงวันที่ 25 ต.ค. 65 ในข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่น, พยายามฆ่า และพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไปที่ทางสาธารณะ พร้อมกับนำอาวุธปืนยาว M4 พร้อมด้วยกระสุน และเสื้อเกราะกันกระสุน มามอบให้กับผู้บังคับบัญชา หลังจากก่อเหตุได้ไปหยิบขโมยมาจากที่ทำงาน พร้อมกับนำเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ขายาว มามอบให้ด้วยเช่นกัน ก่อนจะใส่กุญแจมือนำตัวมาสอบปากคำอย่างละเอียดที่กองกำกับการสืบสวน ภ.จว.ตรัง ท่ามกลางสีหน้าเคร่งเครียดและอยู่ในสภาพอิดโรย

พฤติการณ์เบื้องต้นหลังจากผู้ต้องหาก่อเหตุและไปหยิบขโมยอาวุธจากที่ทำงาน ได้เดินเท้าหลบหนีเข้าไปหลบซ่อนอยู่ภายในป่ารกทึบใกล้สนามบินตรังและอยู่ฝั่งตรงข้ามกองบังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง และห้องทำงานชุดปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง (S.W.A.T) ประมาณ 1.5 กิโลเมตร เท่านั้น ก่อนจะทนแรงกดดันไม่ไหว เพราะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดล้อมอยู่บริเวณโดยรอบ ประกอบกับในช่วงกลางคืนที่ผ่านมามีฝนตก ก่อนจะตัดสินใจติดต่อเข้ามอบตัวโดยประสานไปยัง พ.ต.ต.ขวัญเจริญ ไกรทอง สว.กก.สส.ภ.จว.ตรัง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของ จ.ส.ต.ชุติพนธ์ หรือจ่าเบิร์ด เพื่อขอเข้ามอบตัวในช่วงเช้าเวลา 06.30 น. วันนี้ ที่บ้านร้างในพื้นที่ หมู่ 10 ซอยเห็ดแครง ต.โคกหล่อ อ.เมืองตรัง ขณะนี้อยู่ในระหว่างที่ผู้บังคับบัญชากำลังเค้นสอบปากคำอย่างละเอียด.
{Fullwidth}{Fullwidth}