เตรียมสั่งให้ออก หมวดปืนโหด บังคับโอน 20 ล้าน เสี่ยอสังหาฯ ปฏิเสธโดนยิงดับ
พล.ต.ต.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผบก.น.4 เตรียมให้ออกจากราชการ ร.ต.ท.ปืนโหด นรต.75 ยิงดับเสี่ยหนุ่มนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บนทางด่วน ปมมีปากเสียงบังคับโอนเงิน 20 ล้าน แต่ตกลงกันไม่ได้
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 30 ธ.ค. 66 ที่กองกำกับการสืบสวน สอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 พล.ต.ต.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผบก.น.4 กล่าวว่า ภายหลังจากสอบปากคำ ร.ต.ท.ณรงค์วัส ทะชาดา รอง สว.(สอบสวน) สน.หัวหมาก หรือนัท อายุ 25 ปี นรต.75 ชาวจ.นครปฐม ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา เลขที่ 4841/2566 ข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และ พกพาอาวุธเข้าไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชน”
ตรวจยึดพร้อมของกลาง 1.อาวุธปืนพกสั้น กึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ กล็อก 19 สีดำ จำนวน 1 กระบอก พร้อม ซองกระสุน จำนวน 1 อัน 2.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ iPhone รุ่น 14 โปรแมกซ์ สีดำ จำนวน 1 เครื่อง 3.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Samsung สีดำ จำนวน 1 เครื่อง 4.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Buddy Phone สีขาว จำนวน 1 เครื่อง 5.ชุดที่ใส่ก่อเหตุทั้งเสื้อกางเกงรองเท้า เป็นตัวเดียวกันกับที่สวมใส่ขณะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม
หลังจากการสอบปากคำนาน 6 ชม. ได้ความว่า ร.ต.ท.ณรงค์วัสฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้ลงมือสังหาร โดยอ้างว่ามีปัญหาหนี้สินติดหนี้ในระบบ 2 ล้านบาท จากการกู้ไปลงทุนทำธุรกิจแล้วเจ๊ง จากนั้นก็ได้รู้จักกับผู้ตายที่เข้ามาติดต่อราชการว่าตกเป็นผู้เสียหายคดีฉ้อโกง จึงรู้จักและสนิทกัน แล้วคอยทำงานเป็นคนขับรถให้ผู้ตาย ทำงานมาประมาณ 5 เดือน ได้ค่าจ้างครั้งละ 1,000 บาท ระหว่างทำงานถูกบอกว่าจะเคลียร์หนี้ให้ จะดูเรื่องตำแหน่งให้ แต่อยู่ด้วยกันมานานยังไม่เห็นว่าจะทำอะไรให้
จนมาถึงวันเกิดเหตุ ร.ต.ท.ณรงค์วัส ขับรถให้กับผู้ตายภายในรถมีปากเสียงกันเรื่องที่ว่าถูกหลอกใช้ ผู้ต้องหาได้ใช้อาวุธปืนของตัวเองยิงขา 1 นัด แล้วขู่บังคับให้โอนเงินจำนวน 20 ล้าน แต่ตกลงกันไม่ได้ โดยผู้ตายกระโจนมาแย่งปืนผู้ก่อเหตุที่ขับรถอยู่ ยื้อแย่งได้สักระยะจึงจอดรถ ผู้ก่อเหตุเปิดประตูลงไปนอกรถใช้อาวุธปืนยิงซ้ำอีกถูกบริเวณแขน ยังไม่เสียชีวิต ต่อมาผู้ต้องหาได้ขับรถหนีไป แต่นึกได้ว่าทำโทรศัพท์ของตนเองตกไว้ในที่เกิดเหตุ จึงวนรถกลับมาอีกรอบพร้อมบังคับให้โอนเงินอีกครั้ง แต่ถูกปฏิเสธจึงถูกจ่อยิงที่หัวอีก 2 นัด เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ผู้ต้องหายอมรับอีกว่าเกิดจากความเครียดและเข้าใจว่าตนถูกหลอกใช้
เมื่อถามว่าให้ช่วยเรื่องวิ่งเต้นตำแหน่งนั้น พล.ต.ต.ธนันท์ธร กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะผู้ต้องหาจะให้การอะไรก็ได้ แต่ยังอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน ส่วนเงินค่าขับรถได้ครั้งละ 1,000 บาท ยังไม่ปักใจเชื่อกรณีดังกล่าว เพราะเงินค่อนข้างน้อย สาเหตุที่กลับมายิงนั้น เพียงต้องการเอาโทรศัพท์ที่ทำตกอยู่ แต่เห็นผู้ตายยังไม่เสียชีวิตจึงบังคับให้โอนเงินแต่ถูกปฏิเสธใช้อาวุธยิงปืนซ้ำ รายละเอียดดังกล่าวอยู่ระหว่างสอบปากคำ ทั้งนี้ ต้องรอผลสรุปการรวบรวมพยานหลักฐานให้ความยุติธรรมทั้ง 2 ฝ่าย
เมื่อถามว่าผู้ต้องหามีความเครียดหรือไม่ ผบก.น.4 กล่าวว่า มีความเครียดแน่นอน ส่วนรถยนต์ที่ก่อเหตุนั้น ตรวจสอบรถที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ให้ทางตำรวจพิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสอบวิถีการยิงภายในรถ และอยู่ระหว่างสอบปากคำผู้ต้องหาที่เป็นประจักษ์พยานเพียงคนเดียว ส่วนธุรกิจทั้งผู้ตายและผู้ก่อเหตุ ต้องดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินพิสูจน์ทราบการลงทุนร่วมกันหรือไม่ ส่วนทำพาสปอร์ตเตรียมการหนีหรือไม่ ต้องทำการพิสูจน์ทราบว่าข้อเท็จจริงดังกล่าวเป็นความจริงหรือไม่อย่างไร
ทั้งนี้จะนำตัวผู้ต้องหาดังกล่าว ส่งพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เพื่อควบคุมตัวฝากขังที่ศาลอาญาในวันพรุ่งนี้ (31 ธ.ค.) ภายหลังจากนี้ ทางบก.น.4 จะดำเนินการทำเรื่องออกจากราชการไว้ก่อนต่อไป