สับหัวปลาชิ้นไม่เท่ากัน 2 ลุงทะเลาะกัน ชกสู้ไม่ได้ คว้าไม้ตีหัวเพื่อนดับ
ลำปาง-สองลุงตั้งวงนั่งดื่มสุรา ก่อนทะเลาะมีปากเสียงกันเรื่องเมนูต้มหัวปลา "ทำไมสับหัวปลาชิ้นไม่เท่ากัน" สุดท้ายลุงวัย 58 เป็นเจ้าของบ้าน ชกสู้ลุงวัย 63 ไม่ได้ ใช้ท่อนไม้ตีหัวเพื่อนดับสลด ก่อนยืนรอมอบตัวตำรวจ
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 13 ธันวาคม 2567 พ.ต.ธีระ สุมา สว.(สอบสวน) สภ.สบปราบ จ.ลำปาง รับแจ้งเหตุมีคนถูกทำร้ายร่างกายเสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 100 หมู่ที่ 2 ต.สบปราบ อ.สบปราบ จ.ลำปางจึงรถไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.ภมิปัญญ์ญา นวตระกูลพิสุทธิ์ ผบก.ภ.จว.ลำปาง, ชุดสืบสวน, แพทย์โรงพยาบาลสบปราบ, เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 5 ลำปาง และหน่วยกู้ภัยสมาคมกู้ภัยลำปางจุดสบปราบ
ที่เกิดเหตุบริเวณโรงรถบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งด้านหลังใช้เป็นที่ทำครัวพบศพนายประหยัด ด้วงเขียว อายุ 63 ปี ชาวอำเภอสบปราบ จังหวัดลำปาง สภาพศพถูกตีด้วยของแข็งที่บริเวณศีรษะจนน่วม นอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือด
ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายอนุรักษ์ วงศ์นันชัย อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว หลังก่อเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหน ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมให้การว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าวันนี้ ผู้ตายได้มาหาที่บ้านจึงทำอาหารและสุรามาเลี้ยง ตอนแรกคนที่มาร่วมวงด้วยกันมีทั้งหมด 4 คนแต่ช่วงประมาณ 09:30 น.เพื่อน 2 คนได้ขอตัวกลับไปก่อน ต่อมาตนเองจะได้ต้มหัวปลา ซึ่งซื้อมาจากตลาดเลี้ยง ผู้ตายระหว่างที่ตนเองกำลังสับหัวปลาอยู่นั้น ผู้ตายได้พูดออกมาว่า “ทำไมสับปลาชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ไม่เท่ากัน” ต่อมาตนเองจึงว่ากลับไปว่า “จะกินหรือไม่กิน” จนเกิดวิวาทะกันกับผู้ตายและผู้ตายได้ต่อยตนเองไป 1 ครั้ง ตนเองสู้ไม่ได้จึงเดินออกไปฉี่ ก่อนที่จะเหลือบเห็นท่อนไม้ซึ่งอยู่ใกล้กัน จึงหยิบท่อนไม้ดังกล่าวและอาศัยจังหวะที่ผู้ตายหันหลังให้ จึงใช้ท่อนไม้ตีไป 1 ครั้ง ก่อนที่ผู้ชายจะล้มลงและจึงเข้าไปซ้ำอีก 2-3 ที จนเห็นผู้ตายแน่นิ่งไป ก่อนที่ต่อมาหลานสาวเข้ามาเห็นว่า นายประหยัดเสียชีวิตไปแล้ว จึงแจ้งตำรวจ ส่วนตนเองก็ไม่ได้หนีไปไหนยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ก่อเหตุและคนเสียชีวิตคงดื่มกันจนเมาแล้วเกิดเขม่นกันจนเกิดเหตุดังกล่าว พร้อมได้แจ้งข้อหานายอนุรักษ์ ว่าฆ่าผู้อื่นฯ นำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป